วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2554

GE day

       GE day จัดขึ้นวันที่ 8-10 กันยายน 2554 มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร อาคาร 20 ภายในงานมีการจัดซุ้มนิทรรศการจากนักศึกษาที่ให้ความรู้ต่างๆ รวมถึงอาหาร ขนมหวานที่มีให้เลือกอีกมากมายค่ะ

ภาพบรรยากาศภายในงาน


เริ่มจากซุ้มวิถีโลก ซึ่งเกี่ยวกับวิวัฒนาการทางสังคม เศรษฐกิจการเมืองและการปกครองของสังคมโลก   ประโยชน์ที่ได้จากซุ้มนี้ น่าจะสามารถนำมาปรับใช้ให้เข้ากับการดำเนินชีวิตประจำวันของเราได้เป็นอย่างดี และยังทราบถึงประวัติ ความเป็นมาของสมันก่อนจนมาถึงปัจจุบัน ว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง  (ซุ้มนี้เรามีส่วนร่วมในการจัดบอร์ดด้วย ^^)


ตามมาด้วยซุ้ม English for Communication ซึ่งเกี่ยวกับภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร เป็นสื่อกลางในการติดต่อกับชาวต่างชาติ ต่างภาษา ประโยชน์ที่ได้ก็คือ สามารถเพิ่มความรู้ และนำไปใช้สื่อสารตามสถานการณ์ต่างๆในอนาคต


เป็นบอร์ดที่ให้ความรู้มาก ใครอยากฝึกภาษาอังกฤษมาซุ้มนี้เลยค่ะ


ซุ้มมนุษย์กับการพัฒนาตน เป็นการดำเนินชีวิตในยุคโลกาภิวัตน์ เป็นยุคแห่งไร้พรมแดน เต็มไปด้วยการเร่งรีบ แข่งขันกัน ซึ่งให้ความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาทางด้านความคิดของคน 
เพื่อนๆสามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้


และซุ้มมนุษย์กับสิ่งแวดล้อม เป็นซุ้มที่น่าสนใจมาก เพราะการอาศัยอยู่บนโลกนี้ จำเป็นที่จะต้องพึ่งพาอาศัยสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ การกระทำของมนุษย์มีผลโดยตรงต่อการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมบนโลกใบนี้ ดังนั้นเราควรจะอนุรักษ์ทรัพยาการทางธรรมชาติที่มีอยู่ให้มีความสมดุล อย่างเช่น ช่วยกันการลดโลกร้อน เป็นต้น


นอกจากนี้ จะเน้นหลักการเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริของในหลวง เริ่มด้วยการสร้างพื้นฐานความพอกิน พอใช้ของแต่ละครอบครัวก่อน


จะเห็นได้ว่ามีของกินให้เลือกอย่างละลานตา


ไม่รู้จะเลือกซื้ออะไรก่อนเลยอะ ^^

สุดท้ายนี้ เป็นภาพบรรยากาศที่ได้ไปชมนิทรรศการค่ะ


วันเสาร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2554

ผิวแบบไหน...ดูแลอย่างไร



       ผิวของแต่ละคนมีลักษณะที่ต่างกัน จึงย่อมต้องการดูแลที่ไม่เหมือนกันก่อนอื่นมาตรวจสอบกันก่อนว่าคุณมีผิวชนิดใด

       ล้างหน้าให้สะอาด แล้วทิ้งไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง ถ้าทำการตรวจสอบทันทีหลังล้างหน้า อาจทำให้คลาดเคลื่อนได้ เพราะแม้แต่คนที่หน้ามันสุดๆยังดูแห้งได้หลังจากล้างหน้าใหม่ๆ จึงควรทิ้งเวลาออกไป เพื่อดูการทำงานของต่อมไขมัน โดยใช้กระดาษนุ่มๆบางๆปิดหน้า ถ้ากระดาษติดหน้าแสดงว่าผิวมัน ถ้าไม่ติดหน้าเลยแสดงว่าผิวแห้ง ถ้ากระดาษติดหน้าเพียงบางส่วนโดยเฉพาะบริเวณทีโซนแสดงว่าคุณมีผิวปกติ
 


ผิวแห้ง เป็นผิวที่ไม่สามารถรักษาความชุ่มชื้นไว้ได้ทำให้ใบหน้าดูไม่มีชีวิตชีวา และมีโอกาสเกิดรื้วรอยเหี่ยวย่นได้ง่ายกว่าผิวประเภทอื่นๆ ลักษณะของคนผิวแห้งบริเวณแก้มด้านล่างที่ต่อกับคาง และผิวใต้ตาจะดูแห้งบางครั้งจะลอกเป็นขุย

ขั้นตอนการดูแล หลีกเลี่ยงการใช้โลชั่นเช็ดผิว เพราะจะทำให้ผิวแห้งมากขึ้นทางทีดีควรใช้น้ำเปล่าล้างหน้าในช่วงเช้า ส่วนช่วงเย็นซึ่งต้องล้างเครื่องสำอางออก ควรเลือกใช้ครีมล้างหน้าที่มีส่วนผสมของ มอยส์เจอร์ไรเซอร์ ซึ่งจะรู้สึกผิวลื่นๆหลังล้างหน้า ส่วนก่อนนอนควรบำรุงผิวหน้าด้วยครีมบำรุง เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าสำหรับคนที่หน้าแห้งมากจนแตกเป็นลายงา ให้เพิ่มมอยเจอร์ไรเซอร์ในช่วงเช้าและกลางวันแต่คนผิวแห้งก็มีข้อดีคือ รูขุมขนมักกระชับมองดูหน้าเนียนและไม่ค่อยมีปัญหาใบหน้ามันย่องจนทำให้แต่งหน้าไม่ติดทน




ผิวมัน ผิวประเภทนี้จะมีความมันกระจายอยู่ทั่วใบหน้า และจะมีความมันมากเป็นพิเศษบริเวณทีโซนหรือแถวหน้าผาก คาง และจมูก คนผิวมันดูเหมือนว่าจะเกิดริ้วรอยได้ยากกว่าคนผิวแห้ง แต่ก็ทำความสะอาดได้ยากกว่า และเนื่องจากต่อมไขมันทำงานมากกว่าปกติจึงทำให้รูขุมขนใหญ่ ผิวหน้าดูหยาบกว่าคนผิวแห้ง ปัญหาอีกอย่างหนึ่งของคนผิวมันคือ เมื่อไขมันออกมาเคลือบใบหน้ามากๆเข้า ทำให้ใบหน้าดูมันย่อง หน้าตาไม่สดใส แต่งหน้าก็มักไม่ติดทน

ขั้นตอนการดูแล เลือกใช้สบู่อ่อนๆ หรือเจลใสล้างหน้า และไม่จำเป็นต้องล้างหน้าบ่อยๆ ถ้าหน้ามันมากให้ใช้กระดาษซับหน้าคอยดูดซับน้ำมันออกจะช่วยให้ผิวหน้าผ่องขึ้นได้ ส่วนเครื่องสำอางเลือกใช้ชนิด Oil-free เพื่อไม่ให้ใบหน้าดูมันเยิ้ม





ผิวปกติ จริงๆแล้วคนส่วนใหญ่มักมีผิวลักษณะนี้คือ จะมีน้ำมันเคลือบผิวบางๆบริเวณทีโซนคือ ส่วนของหน้าผาก และจมูกจะมีความมันมากกว่าส่วนของแก้ม ในขณะที่ผิวรอบดวงตาและส่วนของแก้มลงมาจนถึงคอจะดูแห้งกว่าบริเวณทีโซน

ขั้นตอนการดูแล ควรล้างหน้าด้วยสบู่อ่อนๆ และไม่ควรใช้โลชั่นทีมีส่วนผสมของแอลกฮอล์ เพราะจะทำให้คุณเป็นคนผิวแห้งได้ ส่วนการใช้มอยส์เจอไรเซอร์ให้เลือกทาเฉพาะส่วนของของแก้ม และผิวรอบดวงตาเพื่อป้องกันการเกิดริ้วรอย